เชื่อหรือไม่ว่าการดีไซน์พื้นที่สีเขียวให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตช่วยดึงดูดให้ผู้คนอยากมีส่วนร่วมกับพื้นที่นั้นๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ที่พัก โรงแรม รวมถึงร้านอาหารหรือร้านกาแฟที่มีพื้นที่ Outdoor ยิ่งมีการออกแบบที่แปลกใหม่ สวยงาม และเหมาะสมกับบริบทพื้นที่ ประกอบกับอิทธิพลของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เราจะเห็นได้ว่ามักมีผู้คนอย่างอินฟลูเอนเซอร์มาแนะนำสถานที่ ส่งผลให้กระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้เห็นว่าภูมิทัศน์และพื้นสีเขียวนั้นมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมูลค่าอาคารสำนักงาน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างที่ทำอุตสาหกรรมการบริการ อย่างเช่น โรงแรม สปา เป็นต้น ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์
นอกจากนี้ ภูมิทัศน์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับสุขภาพจิตที่ดีต่อมนุษย์ เพิ่มคุณภาพที่ดีของสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอากาศอันบริสุทธิ์ ลดมลพิษและช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งยังปรับทัศนียภาพของชุมชนให้ดูน่าอาศัย ให้เหมาะแก่เป็นพื้นที่สำหรับการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม กิจกรรมสันทนาการ และกิจกรรมต่างๆ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตในชุมชน
งานภูมิทัศน์จึงจำเป็นที่จะต้องมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ภูมิทัศน์คงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และความสวยงามของอาคาร โดยมีปัจจัยหลายด้านที่เกี่ยวข้องให้สามารถใช้งานได้ดีและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน สำหรับงานดูแลภูมิทัศน์ก็เป็นอีกงานบริการของทางทีมรากดีที่จะช่วยสร้างทัศนียภาพที่ดีให้กับสิ่งปลูกสร้างแบบครบวงจรทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร โดยหลักๆ จะแบ่งงานดูแลได้ดังนี้
1.งานทำความสะอาดพื้นที่ เช่น เก็บกวาดเศษใบไม้ เศษวัชพืช เศษหญ้า เศษกิ่งไม้ ใบไม้ หรือขยะต่างๆ สามารถใช้อุปกรณ์ทุ่นแรงในการทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว เช่น เครื่องเป่าใบไม้ รถเข็นเศษใบไม้ ซึ่งไม่ทำให้พื้นผิวบริเวณสนามหญ้าและทางเดินเกิดความสกปรกไม่น่าใช้งาน
2.งานดูแลรักษาไม้ยืนต้น ไม้ประดับ ไม้พุ่ม และไม้ดอก อาทิ การตัดแต่งกิ่งและไม้พุ่ม เพื่อลดการเกิดโรคพืช โดยเราสังเกตได้จากกิ่งไม้แห้งหรือเหี่ยว ส่วนใหญ่มักเป็นอาการที่เกิดจากแมลงศัตรูพืชเข้าไปทำลายจนเกิดการยับยั้งการเติบโต รวมถึงขาดการดูแลอย่างการรดน้ำ ต้นไม้ขาดแสงและปุ๋ย อย่างน้อยต้องมีการเช็ดทำความสะอาดใบ ตลอดจนตรวจสอบไม้ค้ำยัน ต้องมีความเหมาะสมกับการใช้งานอยู่เสมอลดการโค่นล้มและความปลอดภัยของต้นไม้ที่ถูกค้ำยัน
3.งานดูแลสนามหญ้า ในที่นี้มีทั้งสนามหญ้า ทางเท้า และขอบสนาม ต้องมีการตัดหญ้าอย่างน้อย 2 ครั้ง/เดือน เพิ่มความเรียบร้อยของทัศนียภาพ อีกทั้งต้องมีการตัดหญ้าอย่างถูกวิธีตามชนิดหญ้าและเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม รวมถึงต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอย่างมิดชิด
4.งานให้ปุ๋ยและงานพรวนดิน สำหรับการใสปุ๋ยที่ถูกต้องจะต้องขึ้นอยู่ชนิดของต้นไม้และขนาด เพื่อให้มีความสมดุลกัน ไม่น้อยและไม่มากจนเกินไป นอกจากนี้ต้องใส่วัสดุปรับปรุงคุณภาพดินเพิ่มการระบายอากาศ เช่น กาบมะพร้าวสับ เปลือกถั่ว ดินผสมอินทรียวัตถุ หรือนำเศษใบไม้มาทำเป็นปุ๋ยหมัก ต้องพรวนดินก่อนการใส่ปุ๋ย โดยขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้เพื่อให้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นหรือตามความเหมาะสม
5.งานกำจัดวัชพืชและป้องกันศัตรูพืช ต้องหมั่นกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดศัตรูพืช วิธีการกำจัดก็มีหลายวิธีซึ่งจะต้องใช้อย่างเหมาะสม เช่น ใช้แผ่นพลาสติกคลุมทับวัชพืช ประมาณ1-2 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้วัชพืชเติบโต หรือวิธีดึงถอนหรือขุดหน้าดินทำลายวัชพืช
6.งานรดน้ำและงานดูแลระบบน้ำ ถือว่ามีบทบาทอีกหนึ่งในการดูแลรักษา เพราะน้ำเป็นส่วนในการหล่อเลี้ยงอาหารที่ดี สำหรับพื้นที่สนามหญ้าที่มีขนาดใหญ่ ควรติดตั้งระบบรดน้ำแบบอัตโนมัติเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง อีกทั้งต้องรดน้ำสม่ำเสมอให้ดินชุ่มชื้นส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช